วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พระมงคลสุทธิคุณ หลวงปู่ฟู หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร อัตตะชีวประวัติ ปฏิปทา และวัตถุมงคล


"พระมงคลสุทธิคุณ มหามงคลของคนบางปะกง"พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงปู่ฟูนี้ ท่านเป็นพระมหาเถราจารย์รัตตัญญูผู้ใหญ่ ผู้ได้รับการถ่ายทอดสืบสานวิชาพุทธาคมสายหลวงพ่อปานวัดบางเหี้ยมาจากหลวงพ่อดิ่ง หลวงพ่อดิ่งรับสืบทอดมาจากหลวงพ่อดิษฐ์ เพราะฉนั้นจะเห็นได้ว่าหลวงปู่ฟูท่านไม่ธรรมดา เป็นพระผู้ทรงสมณศักดิ์สูง เป็นมหาเปรียญ ๔ ประโยค เป็นพระมหาเถระผู้เฒ่าอายุเก้าสิบกว่าแล้ว แต่ยังแผ่บารมีสงเคราะห์อนุเคราะห์ศิษยานุศิษย์ด้วยจิตตานุภาพแห่งความเมตตาไม่มีประมาณ ไม่เลือกว่ายากดีมีจน ถ้าอยู่มาเป็นได้พบได้รับความเมตตาตามแต่จะประสงค์ วัตถุมงคลของท่านมีอานุภาพครบทุกด้านจะขอนำเสนออัตตชีวประวัติของท่านให้ทราบดังนี้


หลวงปู่เป็นชาวบางสมัครโดยกำเนิดเกิดเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย ปีจอ โยมบิดาชื่อนุ่ม โยมมารดาชื่อเปี่ยม ดวงดารา ณ.บ้านเลขที่ ๑๙ หมู่ที่ ๔ ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ในวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๕ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเมีย ณ.พัทสีมาวัดบางสมัคร ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีหลวงพ่อพระครูพิบูลย์คณารักษ์(หลวงพ่อดิ่ง คงฺคสุวณฺโณ) วัดอุสภาราม(บางวัว)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมกิจจานุรักษ์(ชื้อ)วัดทองนพคุณ คลองสาน กรุงเทพฯเป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อมหาจอม(พระครูเมธีธรรมโฆสิต)วัดบางสมัครเป็นพระอนุสาวนาจารย์


พระครูพิบูลย์คณารักษ์(หลวงพ่อดิ่ง คงฺคสุวณฺโณ)วัดบางวัว พระอุปัชฌาย์


พระครูธรรมกิจจานุรักษ์ (หลวงพ่อชื้อ ไมตรีจิต) วัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ พระกรรมวาจาจารย์


พระครูเมธีธรรมโฆสิต (หลวงพ่อพระมหาจอม โฆสโก ป.ธ.๓) วัดบางสมัคร พระอนุสาวนาจารย์


                               ภาพวัดทองนพคุณ กรุงเทพมหานคร


ท่านเจ้าคุณพระเทพวิมล (ชุ่ม ติสารมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ พ.ศ.๒๔๖๒-พ.ศ.๒๕๐๒

เมื่อหลวงปู่อุปสมบทแล้ว ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ กับท่านพระครูธรรมกิจจานุรักษ์ ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม ขณะนั้นมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพวิมล(ชุ่ม ติสารมหาเถร)ครั้งนั้นทรงสมณศักดิ์ที่"พระสังวรวิมล"เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งหลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระเทพวิมล(ชุ่ม)และหลวงพ่อพระครูธรรมกิจจานุรักษ์(ชื้อ)ทั้งสองรูปนี้เป็นชาวบางวัวอำเภอบางปะกง หลวงปู่ฟูเป็นชาวบางสมัครอำเภอบางปะกง มีชาติภูมิเป็นชาวบางปะกงเช่นเดียวกัน มีหลวงพ่อดิ่งเป็นองค์พระบูรพาจารย์รูปเดียวกันคือเป็นพระอนุสาวนาจารย์ของท่านเจ้าคุณชุ่ม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อชื้อ และเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ฟู เหตุฉะนี้ท่านจึงได้ไปจำพรรษาณ.วัดทองนพคุณ ในพรรษาแรก พ.ศ.๒๔๘๕ ท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.๒๔๘๖ พรรษาที่สองสอบได้นักธรรมชั้นโท และด้วยเหตุว่าในขณะนั้นอยู่ในช่วงภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง การอยู่จำพรรษาเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมในพระนครไม่สะดวกนัก หลวงปู่จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดอุทยานนที(วัดสมถะ)จ.ชลบุรี และสอบได้นักธรรมชั้นเอกเมื่อปีพ.ศ.๒๔๘๙ ต่อมาพ.ศ.๒๔๙๑ สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ได้เป็นพระมหา และสอบได้ปธ.๔ ในปีพ.ศ.๒๔๙๒ หลวงปู่ได้ดำรงค์อยู่ในสมณฐานะที่"พระมหาฟู อติภทฺโท ปธ.๔"วัดอุทยานนที ซึ่งในครั้งนั้นพระครูโสภณกิจจาทร (หลวงพ่อบุญมา) ขณะดำรงค์สมณะศักดิ์ที่"พระครูธรรมธรบุญมา"เป็นเจ้าอาวาส

             
                หลวงพ่อมา วัดอุทยานนที จ.ชลบุรี


         พระมหาฟู อติภทฺโท ปธ.๔ วัดอุทยานนที จ.ชลบุรี


         พระมหาฟู อติภทฺโท ปธ.๔ วัดอุทยานนที ชลบุรี


       พัดเปรียญธรรม ๓,๔ ประโยค พระมหาฟู อติภทฺโท

พระครูมนูญธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา เจ้าคณะตำบลหนองไม้แดง จ.ชลบุรี

ครั้นถึงพ.ศ.๒๕๐๑ หลวงปู่ได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา ชลบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองไม้แดง และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรในราชทินนามที่"พระครูมนูญธรรมรัต"สี่ตำแหน่งในปีเดียวกันนี่เองซึ่งในปี ๒๕๐๑ นี้หลวงปู่อายุได้ ๓๖ ปี ๑๖ พรรษา ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ.ปีพ.ศ.๒๕๐๓ อายุ ๓๘ พรรษา ๑๘ ขณะที่ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา

                                                  หลวงปู่เมื่อเป็นพระครูเจ้าคณะตำบล
 
   ขณะที่หลวงปู่เป็นเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภาได้สองปี ในปีพ.ศ.๒๕๐๕ ท่านพระครูเมธีธรรมโฆสิต(หลวงพ่อพระมหาจอม โฆสโก ปธ.๓)
ถึงแก่มรณภาพ วัดบางสมัครขาดเจ้าอาวาส ฆราวาสญาติโยมชาวบ้านบางสมัครเห็นพ้องต้องกันว่าพระครูมนูญธรรมรัตเป็นลูกหลานบ้านบางสมัคร จึงได้พร้อมใจกันนิมนต์ท่านจากเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา เจ้าคณะตำบลหนองไม้แดง มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางสมัคร และเป็นเจ้าคณะตำบลบางสมัครในคราวเดียวกัน นับเป็นที่น่าอัศจรรย์ในบารมีธรรมของหลวงปู่ที่เจริญรุ่งเรืองในสมณฐานันดรศักดิ์ด้านการปกครองเป็นที่ปรากฏ แม้เป็นตำแหน่งเล็กๆน้อยๆในสังฆมณฑลก็ตาม พอถึงปีพ.ศ.๒๕๑๔ ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง 

                            
                           หลวงปู่เมื่อเป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง



 
         ลำดับพัดยศสมณศักดิ์พระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ชั้นเอก ชั้นพิเศษ ในราชทินนาม "พระครูมนูญธรรมรัต"

ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้มาโดยตลอดและได้รับพระราชทานเลื่อนเป็นชั้นเอกชั้นพิเศษมาจนกระทั่งเกษียณอายุพระสังฆาธิการ ๘๐ ปี ได้รับการยกย่องจากคณะสงฆ์ให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางปะกงในปีพ.ศ.๒๕๔๖ ครั้นถึงปีพ.ศ.๒๕๔๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งให้เป็นพระราชาคณะ(เจ้าคุณ)ในพระราชทินนามว่า"พระมงคลสุทธิคุณ"ยังความปลาบปลื่มปีติโสมนัสเป็นที่ยิ่งมาสู่คณะศิษยานุศิษย์ สัทธิวิหาริกและอันเตวาสิก ทั้งบรรชิตและคฤหัสถ์




                     พัดพระราชาคณะ (เจ้าคุณ)





                                                  ลำดับสมณศักดิ์ของหลวงปู่ฟู


กราบหลวงปู่ก่อนนอน...
พระมงคลสุทธิคุณหนุนนำหน้า คุณบิดรมารดาอยู่หน้าหลัง ขอคุณพระอริยะสรณัง ช่วยคุ้มบังภยันตรายให้ด้วยเทอญ..









ภาพเก่าเล่าความหลัง แต่เมื่อครั้งองค์หลวงปู่ ทรงยศเป็นพระครู มนูญธรรมรัต(ฟู)
รุ่นแรกเรียกเสาร์ห้า ชาวประชาต่างเชิดชู ไปใหนใครก็รู้ เทพเจ้าชาวบางปะกง.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น